

ความตึงเครียดทางภาษีแยกทองคำออกจากคริปโต: เส้นทางหลบภัยที่แตกต่างท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบาย
ข่าวภาษีศุลกากรแยกทองคำจากคริปโต
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ตลาดการเงินทั่วโลกเกิดความแตกต่างที่ชัดเจน ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่บิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ร่วงลงอย่างหนัก ความเคลื่อนไหวนี้เกิดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างทองคำและคริปโต รายงานจาก Yahoo Finance ระบุว่า ความตึงเครียดด้านภาษีกำลังแยกทองคำออกจากคริปโต ซึ่งสะท้อนว่าสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มตอบสนองต่อความเสี่ยงจากสงครามการค้าในทิศทางที่แตกต่างกัน
ช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างสินทรัพย์แบบเก่ากับสินทรัพย์ยุคใหม่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากสัญชาตญาณของนักลงทุนที่หันกลับไปหาทรัพย์สินที่จับต้องได้ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เมื่อข่าวภาษีศุลกากรเข้มข้นขึ้น ตลาดเริ่มนิยามคำว่า "สินทรัพย์ปลอดภัย" ในปี 2025 ขึ้นใหม่อีกครั้ง การตอบสนองของตลาดต่อข่าวภาษีศุลกากรล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทุนสามารถหมุนเวียนระหว่างกลุ่มสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเพียงใดเมื่อความไม่แน่นอนด้านนโยบายเพิ่มสูงขึ้น
ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากข่าวภาษีศุลกากร
ต้นเหตุสำคัญของความเคลื่อนไหวในครั้งนี้มาจากคำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขู่จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 100% ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือเพิ่มเติม การปะทะกันทางนโยบายครั้งใหม่นี้ได้ปลุกความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจยืดเยื้อกลับมาอีกครั้ง ทุกครั้งที่มีข่าวภาษีศุลกากรเผยแพร่ออกมา ต้นทุนห่วงโซ่อุปทานจะพุ่งสูงขึ้นทันที ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง และเม็ดเงินจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว
กำแพงภาษีไม่ได้ส่งผลเฉพาะกับการค้าสินค้าเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนทิศทางของเงินเฟ้อและจิตวิทยาการลงทุนโดยรวมอีกด้วย เมื่อบริษัทต่าง ๆ ต้องแบกรับต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น พวกเขามักผลักภาระไปยังผู้บริโภค ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น เหตุการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ทำไม "ข่าวภาษีศุลกากร" จึงกลายเป็นปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาไม่แพ้การแถลงนโยบายของธนาคารกลาง เพราะทุกบรรทัดของข่าวภาษีอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทิศทางเศรษฐกิจโลก
การตอบสนองของตลาดต่อข่าวภาษีศุลกากร
ราคาทองคำยังคงพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ราคาทองคำสปอตแตะระดับสูงสุดที่ 4,078.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปิดใกล้ระดับ 4,068 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมปรับตัวขึ้น 2.3% นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยหนุนหลักคือกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ความคาดหวังว่านโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนคลายมากขึ้น และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง ซึ่งล้วนเป็นแรงส่งสำคัญให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
ไคล์ ร็อดดา จาก Capital.com กล่าวว่าความเสี่ยงที่กลับมาอีกครั้งจากการตึงเครียดทางการค้าได้จุดประกายแรงขาขึ้นของทองคำอีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดเอเชียซึ่งมีแรงซื้อจริงจากความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมเครื่องประดับช่วงเทศกาล แม้แต่กองทุน ETF ที่ถือทองคำก็เพิ่มการถือครองต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ห้า แสดงให้นักลงทุนเห็นว่าข่าวภาษีศุลกากรในรอบนี้ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ชั่วคราว แต่สะท้อนถึง "ระบอบเศรษฐกิจใหม่" ที่นักลงทุนต้องปรับพอร์ตรับมือ
ความเปราะบางของคริปโตต่อข่าวภาษีศุลกากร
ขณะเดียวกัน ตลาดคริปโตกลับเผชิญแรงขายหนัก บิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 110,023 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 113,000 ดอลลาร์ ส่วนอีเธอร์ปรับตัวลดลง 3.7% มาที่ 4,128 ดอลลาร์ ตลอดการปรับฐานครั้งนี้ ตลาดคริปโตเผชิญการบังคับขายมากกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์จากการปิดสถานะเลเวอเรจ ทำให้ความผันผวนรุนแรงยิ่งขึ้น
แม้คริปโตเคยถูกยกให้เป็น "ทองคำดิจิทัล" แต่ข่าวภาษีศุลกากรล่าสุดกลับสะท้อนในทางตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวของคริปโตกลับมีความสัมพันธ์สูงขึ้นกับดัชนี Nasdaq 100 ที่ระดับมากกว่า 0.65 ซึ่งตอกย้ำว่าคริปโตยังตอบสนองต่อความเสี่ยงในตลาดการเงินเหมือนสินทรัพย์เทคโนโลยีมากกว่าสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนสถาบันจึงเริ่มมองคริปโตว่าเป็น "สินทรัพย์เก็งกำไรเชิงเทคโนโลยี" มากกว่าจะเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
เว็บไซต์ Investopedia ระบุว่า "ความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มภาษีคือชนวนสำคัญที่ทำให้คริปโตและทองคำแยกทางกัน" ข่าวภาษีศุลกากรรอบนี้ได้ท้าทายคำกล่าวอ้างของคริปโตในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่เชื่อถือได้ในช่วงความกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน
ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 3,950 และ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างชัดเจน ถือเป็นการยืนตันแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ สัญญาณจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในกราฟรายวันยังคงสนับสนุนโอกาสการปรับตัวขึ้นต่อ ขณะที่ตัวชี้วัดแรงโมเมนตัมอยู่ในระดับแข็งแรง ข้อมูลจาก TradingView ระบุว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ยังถือสถานะซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับความผันผวนจากข่าวภาษีศุลกากร
ในมุมพื้นฐาน ทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตทั่วโลกที่ชะลอตัวและแนวโน้มเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเร่งตัวขึ้นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจด้านลบจากข่าวภาษีศุลกากรที่ต่อเนื่อง หากเฟดส่งสัญญาณยุติมาตรการดูดซับสภาพคล่องเร็วกว่าคาด ราคาทองคำอาจเร่งตัวขึ้นอีกระลอก
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับข่าวภาษีศุลกากร
เจเรมี ซีเกล นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังเชื่อว่ามาตรการภาษีส่วนใหญ่จะเป็นเพียงชั่วคราว และตลาดอาจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหากการเจรจากลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง เขาเน้นว่าตลาดหุ้นอาจกลับมายืนได้เมื่อภาษีถูกยกเลิก แต่การพุ่งขึ้นของราคาทองคำยังคงบ่งชี้ถึงความระมัดระวังที่ยังไม่จางหายเกี่ยวกับผลกระทบสะสมของรอบข่าวภาษีศุลกากรที่ซ้ำๆ ต่อความสัมพันธ์ทางการค้าโลก
ฮวน เปเรซ จาก Monex USA แสดงความคิดเห็นว่า คริปโต "ยังคงหาฐานมูลค่าที่มั่นคงไม่ได้" ในช่วงตลาดผันผวนจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และข่าวภาษีศุลกากร ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของผู้จัดการกองทุนหลายรายที่เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ของตลาดมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของความอยากเสี่ยงหลังจากมีการพัฒนาข่าวภาษีศุลกากรที่สำคัญ
- ฌอน ฟาร์เรล จาก Fundstrat: ชี้ให้เห็นว่าปริมาณการบังคับขายที่สูง "สะท้อนว่าข่าวภาษีได้กลายเป็นสัญญาณเตือนให้ลดความเสี่ยง"
- การวิเคราะห์ของ Goldman Sachs: ชี้ให้เห็นว่าแต่ละเหตุการณ์ข่าวภาษีศุลกากรที่สำคัญเพิ่มปริมาณการซื้อขายทองคำขึ้น 15-20%
- Bloomberg Intelligence: รายงานว่าความไวของคริปโตต่อข่าวภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่ปี 2023
กลยุทธ์การลงทุนในตลาดที่ขับเคลื่อนโดยข่าวภาษีศุลกากร
ผู้จัดการพอร์ตทั่วโลกเริ่มปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงของข่าวภาษีศุลกากร กองทุนแบบหลายสินทรัพย์เพิ่มสัดส่วนทองคำและลดน้ำหนักการลงทุนในคริปโต สะท้อนให้เห็นชัดในข้อมูลล่าสุดจาก CFTC การกระจายความเสี่ยงกลับมาเป็นหัวใจสำคัญอีกครั้ง หลังข่าวภาษีเตือนให้นักลงทุนตระหนักถึงความเสี่ยงจากการถือครองสินทรัพย์ในกลุ่มเดียวมากเกินไปในระบบการค้าโลกที่แตกกระจายมากขึ้น
ผู้ที่ถือคริปโตในสัดส่วนสูงมักเผชิญการขาดทุนมากกว่าช่วงที่เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกขยายโดยข่าวภาษีศุลกากร การเพิ่มทองคำหรือพันธบัตรรัฐบาลในพอร์ตช่วยลดความผันผวนโดยไม่จำเป็นต้องละทิ้งโอกาสทำกำไร นักลงทุนควรจับตาคำแถลงของธนาคารกลาง เนื่องจากการยกระดับภาษีมักเป็นสัญญาณล่วงหน้าของการผ่อนคลายนโยบาย ซึ่งเป็นผลดีต่อทองคำ — ทำให้การติดตามข่าวภาษีศุลกากรอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางตำแหน่งพอร์ตการลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
กรุณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎเกณฑ์ในการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
การซื้อขายถือเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยสมบูรณ์ บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกระทบใด ๆ ที่เกิดจากการลงทุนของท่าน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง
การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงจากกลไกเลเวอเรจ อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และไม่มีการรับประกันผลกำไรใด ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และพิจารณาให้รอบด้านถึงความรู้ ประสบการณ์ของท่าน ก่อนตัดสินใจลงทุน
