0
繁體中文
English
Tiếng Việt
ภาษาไทย
繁體中文
한국어
Español
Português
Русский язык
日本語(beta)
اللغة العربية(beta)
zu-ZA
0
市場分析市場分析
市場分析

เฟดชี้สัญญาณความตึงเครียดในภาคการเงิน รุนแรงกว่าปี 2007 ตลาดตอบสนองทันที

Miki · 353.5K 閱讀
เฟดเตือนเสี่ยงภาคการเงินรุนแรงกว่าปี 2007ตลาดการเงินวันนี้สั่นสะเทือน หลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า สภาพแวดล้อมด้านการธนาคารในปัจจุบันมีความเสี่ยงรุนแรงกว่าปี 2007
คำยอมรับนี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์ล่าสุดของเฟดที่นำเสนอเกณฑ์วัดใหม่ชื่อว่า Economic Capital ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเชิงคาดการณ์ล่วงหน้า โดยผลลัพธ์สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการปฏิรูปหลังวิกฤตการเงินโลกยังไม่สามารถลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของระบบการเงินได้จริง อีกทั้งความเปราะบางจากการพึ่งพาเงินฝากยังเพิ่มสูงขึ้น
การเปิดเผยครั้งนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันท้าทายความเชื่อที่มีมาโดยตลอดว่าธนาคารสหรัฐ โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ มีเสถียรภาพมากขึ้นหลังวิกฤติการเงินปี 2008 แต่ในความเป็นจริงกลับสะท้อนถึงความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่ในงบดุล ความเสี่ยงด้านเครดิต การแพร่กระจายเชิงระบบ และแรงกดดันในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สำหรับนักลงทุน นี่คือสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ ดัชนี S&P 500 ดัชนีดอลลาร์ ดัชนี KBW Bank อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดัชนีความผันผวน VIX และราคาทองคำ บทความนี้จะเจาะลึกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ปฏิกิริยาของตลาดล่าสุด การวิเคราะห์เชิงเทคนิคและพื้นฐาน ตลอดจนมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เห็นภาพรวมที่ครบถ้วนของสถานการณ์
 

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความตึงเครียดรอบใหม่ในภาคการธนาคารของเฟด

  1. ทบทวนการปฏิรูปหลังวิกฤติการเงินโลก และความผิดพลาดในการประเมินความเสี่ยง
หลังปี 2008 หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐได้ดำเนินการปฏิรูปครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเงินกองทุนสำรอง การทดสอบภาวะวิกฤติ และการกำหนดข้อกำหนดด้านสภาพคล่องที่เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารล่มสลายเชิงระบบ อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ชี้วัดใหม่ของเฟดเผยให้เห็นว่า แม้เงินกองทุนตามบัญชีจะดูแข็งแกร่งขึ้นบนกระดาษ แต่ “Economic Capital” หรือความสามารถในการดูดซับความสูญเสียภายใต้สถานการณ์กดดันจริง กลับไม่ได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับธนาคารขนาดใหญ่
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ยังพบว่าความเสี่ยงจากเงินฝาก โดยเฉพาะการพึ่งพาเงินฝากที่ไม่ได้รับการคุ้มครองหรือมีความไม่มั่นคง เพิ่มสูงขึ้นสำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งหมายความว่าธนาคารอาจเปราะบางต่อการไหลออกของเงินฝากอย่างฉับพลันหรือช็อกด้านสภาพคล่องมากกว่าที่โมเดลกำกับดูแลมาตรฐานคาดการณ์ไว้
  1. ความเสี่ยงสินทรัพย์ที่ขยายตัวท่ามกลางสภาวะเครดิตที่อ่อนแอ
หากวิกฤติปี 2007 กระจุกตัวอยู่ที่ซับไพรมมอร์เกจ ความเปราะบางในวันนี้กลับกระจายกว้างขึ้น ครอบคลุมการรีไฟแนนซ์อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (CRE) เครดิตผู้บริโภคที่ตึงตัว (สินเชื่อรถยนต์และบัตรเครดิต) ตำแหน่งลงทุนในพันธบัตรระยะยาว ตลอดจนการเปิดรับความเสี่ยงผ่านตราสารอนุพันธ์ และอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้นในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
กล่าวได้ว่า สภาพแวดล้อมทางการเงินในปัจจุบันเผชิญความเสี่ยงที่กว้างและซับซ้อนกว่าครั้งก่อนหน้า โดยการบรรจบกันของนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูง และแรงกดดันด้านเครดิตในหลายภาคส่วน ได้ทวีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของงบดุลธนาคาร
  1. ผลกระทบเชิงมหภาคที่อาจเกิดขึ้น
  • การเข้มงวดด้านสินเชื่อ: ธนาคารอาจลดการปล่อยกู้หรือเพิ่มมาตรฐานการพิจารณาเครดิต ส่งผลให้การลงทุนของภาคธุรกิจและสินเชื่อผู้บริโภคถูกจำกัด
  • ความเสี่ยงการแพร่กระจาย: ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในธนาคารหรือภูมิภาคหนึ่ง อาจลุกลามกลายเป็นการสูญเสียความเชื่อมั่น การไหลออกของเงินฝาก หรือการขายสินทรัพย์แบบบังคับ
  • นโยบายการเงินที่เปลี่ยนทิศ: เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม หรือเลื่อนการดำเนินการไปในระยะยาวเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
  • เส้นอัตราผลตอบแทนและตลาดพันธบัตร: หากส่วนเพิ่มความเสี่ยงปรับสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนระยะยาวอาจขยับสูงต่อไป ทำให้ต้นทุนการระดมทุนเพิ่ม และยิ่งกดดันภาคส่วนที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
 

การตอบสนองของตลาด: จุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน?

ตลาดหุ้นและแรงกดดันภาคการเงิน

ทันทีที่มีข่าวออกมา หุ้นธนาคารและหุ้นกลุ่มการเงินเผชิญแรงกดดันทันที โดยค่า P/E ของทั้งกลุ่มมีแนวโน้มถูกกดให้ต่ำลง เนื่องจากตลาดสะท้อนความเสี่ยงเชิงระบบที่เพิ่มขึ้น หากความกังวลเรื่องการแพร่กระจายขยายวงกว้าง ดัชนีหุ้นโดยรวมอาจเผชิญความผันผวนที่รุนแรงขึ้น

ตลาดตราสารหนี้และส่วนต่างผลตอบแทน

ส่วนต่างเครดิต โดยเฉพาะในกลุ่ม BBB และตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง มีแนวโน้มขยายกว้างขึ้นจากการประเมินความเสี่ยงใหม่ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยงที่มากขึ้น โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันขาขึ้นอยู่แล้ว อาจทะลุแนวต้านสำคัญ หากความกังวลยิ่งทวีความรุนแรง

สินทรัพย์ปลอดภัยและกระแสเงินตราต่างประเทศ

สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลคุณภาพสูง (เช่น German bunds) มีแนวโน้มได้รับประโยชน์ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหากนักลงทุนต่างชาติมองว่า ความตึงเครียดในระบบธนาคารสหรัฐยังถือว่าเป็น “หลักยึดปลอดภัย” เมื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยงในประเทศอื่น ๆ
 

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานในบริบทของสภาพแวดล้อมการธนาคารเฟด

มุมมองพื้นฐาน: การประเมินมูลค่าธนาคารใหม่

การประเมินมูลค่าของธนาคารส่วนใหญ่พึ่งพา ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margins: NIMs) และสมมติฐานด้านการขาดทุนจากเครดิต แต่เมื่อเฟดออกมาเตือนว่าสภาพแวดล้อมการธนาคารมีความเสี่ยงรุนแรงกว่าที่ผ่านมา นักลงทุนจึงมีแนวโน้ม ทบทวนการตั้งสำรองขาดทุนจากเครดิตในอนาคต, ปรับอัตราคิดลดให้สูงขึ้น และตั้งคำถามต่อประมาณการ ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE)
สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีการพึ่งพาเงินฝากที่ไม่ได้รับการคุ้มครองสูง หรือมีการเปิดรับความเสี่ยงมากเกินไปในสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และเครดิตผู้บริโภค จะถูกจับตามองด้วยความระมัดระวังมากขึ้น ในภาพรวม ส่วนลดมูลค่าของหุ้นธนาคารเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร อาจขยายตัวเพิ่มขึ้น
 

รูปแบบทางเทคนิคที่ควรจับตา

  • ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร: หากดัชนีหุ้นธนาคารปรับตัวต่ำกว่าบริเวณแนวรับสำคัญ อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแรงกดดันที่ลุกลามไปสู่ความตึงเครียดทางการเงินในวงกว้าง
  • ส่วนต่างเครดิต: หากส่วนต่างของตราสารหนี้ BBB หรือ High Yield ขยายตัวทะลุระดับสำคัญ เช่น +300–400 จุดเบสิสเหนือพันธบัตรรัฐบาล อาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความตึงเครียดเชิงระบบ
  • ดัชนีความผันผวน (VIX และตัวชี้วัดความผันผวนทางการเงิน): การปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจะสะท้อนถึงระดับความกลัวของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี – 2 ปี: หากการกลับด้านของเส้นอัตราผลตอบแทนยิ่งรุนแรงขึ้น จะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อธนาคารที่เผชิญความเสี่ยงจากการไม่สอดคล้องกันของระยะเวลาสินทรัพย์และหนี้สิน
 

มุมมองนักวิเคราะห์และเสียงจากตลาด

Avi Gilburt ในนิตยสาร Investing.com ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีการปฏิรูปหลังวิกฤติการเงินโลก (GFC) แต่เฟดยอมรับเองว่า ความเสี่ยงด้านความมั่นคงของธนาคารขนาดใหญ่ไม่ได้ดีขึ้นจริง ขณะเดียวกันความเสี่ยงจากการพึ่งพาเงินฝากกลับเพิ่มสูงขึ้น เขาเตือนว่าตัวเลขประมาณการในปัจจุบันอาจบดบังปัญหาที่ลึกกว่านี้ และสิ่งที่เราเห็นอาจเป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” เท่านั้น
ที่น่าสังเกตคือ การรายงานของสื่อกระแสหลักต่อการวิเคราะห์ภายในของเฟดยังมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งอาจสะท้อนว่าตลาดยังประเมินผลกระทบต่ำกว่าความเป็นจริง และเมื่อชุมชนนักลงทุนในวงกว้างเริ่มตระหนัก อาจทำให้ปฏิกิริยาของตลาดรุนแรงกว่าที่คาด
นักวิเคราะห์บางรายอาจเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับความตึงเครียดในปี 2007 แต่สิ่งที่แตกต่างคือ สภาพแวดล้อมการธนาคารในปัจจุบันมีความหลากหลายของความเสี่ยงมากกว่า และอาจอ่อนไหวต่อแรงกระแทกเชิงมหภาคมากกว่าเดิม นี่จึงทำให้ประเด็น “Fed Banking Environment” กลายเป็นแกนกลางของการถกเถียงด้านเสถียรภาพทางการเงินในปี 2025
 

บทสรุปและประเด็นสำคัญ

  • การยอมรับที่น่าตกใจของเฟดสะท้อนว่า สภาพแวดล้อมการธนาคารในปัจจุบันเปราะบางกว่าก่อนวิกฤติการเงินโลก โดยเกณฑ์ Economic Capital ชี้ว่าธนาคารขนาดใหญ่ไม่ได้มีความมั่นคงเพิ่มขึ้นจากปี 2007 อย่างมีนัยสำคัญ และความเสี่ยงจากการพึ่งพาเงินฝากกลับเพิ่มขึ้น
  • ปฏิกิริยาของตลาดเริ่มสะท้อนการประเมินใหม่: หุ้นธนาคารถูกกดดัน ส่วนต่างเครดิตขยายกว้างขึ้น ขณะที่กระแสเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
  • ในเชิงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน การประเมินมูลค่าอาจถูกปรับใหม่ ความผันผวนมีแนวโน้มสูงขึ้น และความแตกต่างของคุณภาพเครดิตอาจรุนแรงขึ้น
  • ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตลาดอาจกำลังประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าความเป็นจริง และยังไม่ได้สะท้อนผลกระทบทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในระบบการเงิน

ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่ Dupoin & Dupoin Academy

 
 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
กรุณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎเกณฑ์ในการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
การซื้อขายถือเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยสมบูรณ์ บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกระทบใด ๆ ที่เกิดจากการลงทุนของท่าน

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง
การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงจากกลไกเลเวอเรจ อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และไม่มีการรับประกันผลกำไรใด ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และพิจารณาให้รอบด้านถึงความรู้ ประสบการณ์ของท่าน ก่อนตัดสินใจลงทุน

需要幫助?
點擊此處