

市場分析
หุ้น Oracle พุ่งแรง: ความต้องการ AI Cloud หนุน Backlog สถิติใหม่ ดันราคาพุ่ง 27%
Alice · 151.9K 閱讀

Oracle และรายได้ในไตรมาสแรกจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อย เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ตัวเลขวอลล์สตรีทจะพลาดเป้า แต่ความเชื่อมั่นจากสัญญาล่วงหน้าและคำสั่งซื้อในอนาคตกลับสร้างแรงหนุนอย่างมหาศาลให้กับตลาดการเงิน
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านของ Oracle จากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม ไปสู่การเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI Cloud Infrastructure การคาดการณ์หุ้น Oracle ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้นักลงทุนต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจ การตอบสนองของตลาด ปัจจัยเชิงเทคนิค และมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ล้วนมีผลต่อการกำหนดทิศทางของหุ้น Oracle
ข่าวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า สัญญาในอนาคตและ Backlog Oracle มีบทบาทสำคัญต่อการประเมินมูลค่าหุ้นไม่แพ้กำไรปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับนักลงทุนทั่วโลก บทสรุปชัดเจนคือ เรื่องราวอนาคตและความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI Cloud ของ Oracle อาจมีอิทธิพลต่อราคาหุ้นและการลงทุนมากกว่าตัวเลขผลประกอบการในปัจจุบัน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
Backlog Oracle ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณของความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่แข็งแกร่ง ตัวเลข RPO มูลค่า 455,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงสัญญาระยะยาวกับบริษัทเทคโนโลยีรายสำคัญอย่าง OpenAI, Meta, NVIDIA และ AMD ซึ่งช่วยให้ Oracle มีรายได้ล่วงหน้าที่ชัดเจน และสร้างความมั่นคงด้านกระแสเงินสดในอนาคต
Oracle Cloud Infrastructure (OCI) มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากเดิมที่ 70% เป็น 77% หรือประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2026 และมีเป้าหมายแตะ 144,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า การเติบโตนี้ทำให้ Oracle อยู่ในศูนย์กลางของเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดคลาวด์ เช่น AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud
ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในงบการเงินของ Oracle เท่านั้น ประเทศที่เป็นเจ้าภาพศูนย์ข้อมูล (Data Centers) แห่งใหม่ของ Oracle จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยี การสร้างงาน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ การเร่งตัวของการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร อาจผลักดันให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายเล็กต้องหันไปเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ส่งผลให้ตลาดถูกครอบครองโดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย
การกระจุกตัวของอำนาจทางการตลาดเช่นนี้ จะมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกในอนาคต
การตอบสนองของตลาด
หุ้น Oracle พุ่งขึ้น 27% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสามทศวรรษ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความกระตือรือร้นของนักลงทุน มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 170,000 ล้านดอลลาร์ บ่งบอกถึงความมั่นใจใหม่ในเส้นทางการเติบโตระยะยาวของ Oracle
นักวิเคราะห์ต่างมองในเชิงบวก โดยมีการปรับเพิ่มทั้งคาดการณ์ผลประกอบการและราคาเป้าหมาย อันเป็นผลมาจากการขยายตัวของ Backlog Oracle และแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน ทำให้การคาดการณ์หุ้น Oracle เปลี่ยนจากมุมมองที่ระมัดระวังมาเป็นเชิงบวกมากขึ้น นักลงทุนสถาบันเริ่มปรับพอร์ต โดยหลายกองทุน Hedge Fund คาดว่าจะเพิ่มหุ้น Oracle เข้าไปในพอร์ตหลัก เพื่อตอบรับกับการเติบโตเชิงโครงสร้างของตลาด AI
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนรายย่อยกำลังจับตากราฟทางเทคนิคเพื่อรอจังหวะเข้าซื้อ ขณะที่ตลาดออปชันมีการซื้อขายคึกคักขึ้นอย่างชัดเจน โดยความผันผวนที่สะท้อนจากราคาแฝงบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ทั้งการปรับขึ้นต่อเนื่องหรือการปรับฐานแรงตามมา อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของสัญญาล่วงหน้าและคำสั่งซื้อในอนาคตของ Oracle อาจเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ช่วยลดความผันผวนในระยะยาว
การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
มุมมองปัจจัยพื้นฐาน แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่มีความซับซ้อน รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีการเงิน แสดงกำไรต่อหุ้นปรับปรุงที่ 1.47 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะสูงกว่าความคาดหวังของตลาดในเชิงบวก แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1.48 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้อยู่ที่ประมาณ 14.9 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจคลาวด์ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้นระหว่าง 12–28% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ Oracle
ค่าใช้จ่ายลงทุนหรือ CapEx พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายแตะ 35 พันล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2026 จากเดิมเพียง 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกเพื่อขยายศักยภาพ แม้กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) จะกลับมาติดลบ และการซื้อหุ้นคืนชะลอตัวจากการทุ่มลงทุนดังกล่าว
ในเชิงเทคนิค นักลงทุนต้องจับตาว่าการพุ่งขึ้นของราคาหุ้น Oracle จะสามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง หรือจะมีการปรับฐาน ราคากำลังทดสอบระดับสูงสุดใหม่ หากเกิดการปรับฐาน อาจดึงดูดนักเก็งกำไรให้เข้ามาซื้อในจังหวะย่อตัว ระดับสำคัญที่ควรติดตาม ได้แก่ บริเวณแนวต้านเดิม ปริมาณการซื้อขาย และตัวชี้วัดแรงสัมพันธ์ หากแรงโมเมนตัมยังคงอยู่ หุ้น Oracle อาจสร้างฐานใหม่เหนือค่าเฉลี่ยในอดีต แต่หากแรงขายทำกำไรเร่งตัว อาจเกิดการปรับฐานแรงซึ่งจะทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นอกจากนี้ ความแตกต่างระหว่างกระแสเงินสดที่ติดลบกับแนวโน้มการเติบโตเชิงบวกยังสะท้อนภาพที่ซับซ้อน ฝ่ายมองบวกให้เหตุผลว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นต้องลงทุนล่วงหน้า ขณะที่ฝ่ายมองลบกังวลถึงความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน หากความต้องการชะลอตัวอย่างไม่คาดคิด ความเห็นที่แตกต่างกันนี้จะทำให้หุ้น Oracle ยังคงอยู่ในศูนย์กลางการถกเถียงของวอลล์สตรีทต่อไปในช่วงเดือนข้างหน้า
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
ผู้นำอุตสาหกรรมและนักวิเคราะห์ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจน
-
Safra Catz ซีอีโอของ Oracle อธิบายว่าผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ “ยอดเยี่ยม” โดยเน้นย้ำถึงการปิดดีลสัญญาหลายพันล้านดอลลาร์ถึงสี่ฉบับ และยืนยันว่าการเติบโตในอนาคตส่วนใหญ่ได้ถูกจองไว้ล่วงหน้าแล้ว
-
Larry Ellison ประธานบริษัท กล่าวถึง “ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” พร้อมชี้ว่าบริษัทกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่การเป็นผู้นำด้านคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเน้นกลยุทธ์การลงทุน CapEx ขนาดใหญ่
-
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่านี่คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญ” โดยมีการคาดการณ์ว่ารายได้จาก Oracle Cloud Infrastructure หรือ OCI อาจแตะระดับ 144,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ปี ซึ่งทำให้การคาดการณ์นี้จากเดิมที่ดูเพียงการเก็งกำไร กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้จริง
นักวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งที่แตกต่างของ Oracle เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดคลาวด์ แม้ AWS และ Microsoft Azure จะครองส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบัน แต่การที่ Oracle มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI และการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อาจเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพสูงได้
สำหรับนักลงทุน คำถามสำคัญคือ Oracle จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำนี้ต่อไปได้หรือไม่ หรือว่าคู่แข่งจะเร่งชิงส่วนแบ่งด้วยกลยุทธ์ราคาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์หุ้น Oracle ล่าสุดสะท้อนเส้นทางการเติบโตในระยะยาว ที่เน้นไปที่อุปสงค์เชิงโครงสร้าง มากกว่าการแข่งขันระยะสั้น
แม้จะมีมุมมองเชิงบวกเป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเตือนว่า ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน ข้อจำกัดด้านซัพพลายเชนในการสร้างศูนย์ข้อมูล รวมถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาค อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของการตีความในแวดวงการเงินยังคงโน้มเอียงไปในทางมองบวก
ผลกระทบต่อตลาด
การปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงของหุ้น Oracle ที่ได้รับแรงหนุนจากสัญญา AI Cloud และ Backlog ในระดับสถิติใหม่ ได้เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์หุ้น Oracle อย่างฉับพลัน เส้นทางการเติบโตใหม่ของบริษัทวางตำแหน่ง Oracle ไว้อย่างชัดเจนในจุดตัดระหว่าง Enterprise IT และ โครงสร้างพื้นฐาน Generative AI โดยมีภาระผูกพันตามสัญญามูลค่า 455,000 ล้านดอลลาร์ และแผนการเติบโตเชิงรุกที่คาดการณ์รายได้ Oracle Cloud Infrastructure หรือ OCI แตะ 144,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณา
-
โมเมนตัม การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงการคาดการณ์อนาคต ไม่ใช่แค่ผลประกอบการที่ผ่านมา
-
ความยั่งยืน ติดตามตัวเลขการลงทุน CapEx และกระแสเงินสด เพื่อประเมินความสามารถในการส่งมอบ
-
ระดับทางเทคนิค ตรวจสอบว่าระดับสูงสุดใหม่สามารถยืนได้หรือไม่ หากมีการปรับฐานอาจเป็นโอกาสเข้าลงทุน
-
แนวโน้ม AI ในระดับมหภาค ความต้องการ AI และการยอมรับของภาคธุรกิจยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญ
ผลกระทบมีลักษณะเชื่อมโยงในระดับโลก ไม่เพียงแต่กระทบต่อผู้ถือหุ้น Oracle เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงระบบนิเวศของ AI และ Cloud ทั้งหมด สำหรับภาครัฐและผู้กำกับดูแล ความจริงที่ว่าการเติบโตมหาศาลกำลังถูกกระจุกอยู่ในผู้เล่นรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับการกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ขณะที่สำหรับภาคธุรกิจ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการปรับตัวและเลือกพันธมิตรที่สามารถรองรับการขยายตัวของ Workload ด้าน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่ Dupoin & Dupoin Academy
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
กรุณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎเกณฑ์ในการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
การซื้อขายถือเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยสมบูรณ์ บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกระทบใด ๆ ที่เกิดจากการลงทุนของท่าน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง
การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงจากกลไกเลเวอเรจ อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และไม่มีการรับประกันผลกำไรใด ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และพิจารณาให้รอบด้านถึงความรู้ ประสบการณ์ของท่าน ก่อนตัดสินใจลงทุน
