

ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวแคบ ขณะคาดการณ์ลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น


U.S. Stock
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนรอติดตามรายงานการจ้างงานเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อทิศทางนโยบายของเฟดดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.47% ขณะที่ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.94% จากแรงซื้อกลับในหุ้นเทคโนโลยี ส่วน Dow Jones ทรงตัวใกล้ระดับเดิมข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ที่รายงานว่ามีการลดลง 33,000 ตำแหน่ง ยิ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวข้อตกลงภาษีระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม ซึ่งจะปรับลดภาษีนำเข้าจาก 46% เหลือ 20%หุ้นที่โดดเด่นในการปรับตัวขึ้น ได้แก่
Tesla (+5%), Nvidia (+2.6%), Apple (+2.2%) และ Robinhood (+6.1%) ขณะที่ Datadog พุ่งขึ้น 9% หลังได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P 500 แทนที่ Juniper Networks
Japan
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยดัชนี Nikkei ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.1% จากแรงกดดันในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มยา ขณะที่นักลงทุนรอผลตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ และท่าทีเพิ่มเติมจากนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์บรรยากาศการลงทุนยังคงระมัดระวัง ก่อนการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนนี้ ส่งผลให้ค่าเงิน USD/JPY ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 143.5 ภายใต้แนวโน้มขาลงทางเทคนิคขณะเดียวกัน สายตาทั่วโลกจับจ้องไปที่รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน และร่างกฎหมายใช้จ่าย-ลดภาษีมูลค่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ที่ยังรอการอนุมัติจากสภาผู้แทนฯหากอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ พุ่งเกิน 4.3% ความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม อาจพุ่งสูงถึง 70%.
BITCOIN
การวิเคราะห์พื้นฐาน
บิตคอยน์ยังคงทรงตัวใกล้ระดับ $107,000 หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายใช้จ่ายครั้งประวัติศาสตร์วงเงิน $4.5 ล้านล้าน ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดที่ $106,344 ขึ้นมาเหนือระดับ $107,800แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้งกับคริปโตโดยตรง แต่ก็ส่งผลเชิงบวกต่อบรรยากาศในตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตาม ภาวะระมัดระวังยังคงมีอยู่ โดยมีการล้างพอร์ต (liquidation) มากกว่า $219 ล้าน และในจำนวนนั้นเป็นตำแหน่งของ BTC ถึง $60 ล้านแม้ราคาจะกลับขึ้นไปทดสอบระดับ $109,700ซึ่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิม แต่ข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์และกระแสเงินจาก ETF ยังชี้ว่าแรงซื้อในตลาดยังค่อนข้างเปราะบาง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาบิตคอยน์แสดงสัญญาณฟื้นตัว หลังจากปรับฐานลงมาแตะแนวรับที่ $105,281 โดยโครงสร้างราคาปัจจุบันบ่งชี้ว่าอาจกำลังก่อตัวเป็นรูปแบบHigher Low – Higher Highซึ่งเป็นลักษณะของแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $109,818 ได้อย่างชัดเจนแท่งเทียนขาขึ้นล่าสุดมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง แต่ยังต้องรอการยืนยันว่าเป็นการ Breakout ที่แท้จริง หรือเป็นเพียงการดีดตัวชั่วคราวเหนือระดับ $109,818หากราคาทะลุแนวต้านนี้ได้พร้อมกับ Volume ที่ยังคงแข็แรง ม โอกาสสูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อขึ้นสู่โซน $112,000 ในลำดับถัดไป
DXY
การวิเคราะห์พื้นฐาน
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) เคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณ 96.7 ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3.5 ปี ขณะที่นักลงทุนรอติดตามรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายนข้อมูลจาก ADP ระบุว่าสหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานภาคเอกชนจำนวน 33,000ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคมโดยความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นเป็น 27% อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขออกมาอ่อนแอเกินไปอาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งจะกดดันค่าเงินดอลลาร์เพิ่มเติมในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามช่วยหนุนบรรยากาศตลาดโดยทรัมป์ประกาศปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเหลือ 20% จากที่วางแผนไว้ 46% ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
เฉลี่ย EMA ได้แก่ EMA 34, EMA 89 และ EMA 200 ซึ่งเรียงตัวในลำดับ EMA 34 < EMA 89 < EMA 200 สะท้อนโครงสร้างขาลงที่มั่นคงรูปแบบราคายังคงทำ จุดสูงต่ำลง (Lower Highs) และ จุดต่ำก็ยิ่งต่ำลง (Lower Lows) ต่อเนื่อง ยืนยันแรงขายในตลาด
ขณะที่ RSI อยู่ที่ประมาณ 41 ต่ำกว่าระดับกลางที่ 50 แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมในตลาดยังคงอยู่ฝั่งขาย แม้ RSI จะดีดกลับจากเขต Oversold แล้ว แต่แรงฟื้นตัวยังไม่มากพอที่จะยืนยันการกลับตัวของแนวน้มในตอนนี้
GOLD
การวิเคราะห์พื้นฐาน
ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้น หลังมีความคาดหวังต่อข้อตกลงทางการค้าเพิ่มเติมประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯ และเวียดนามบรรลุข้อตกลงด้านภาษีนำเข้า โดยสินค้าสหรัฐฯ จเข้าสู่เวียดนามได้โดยไม่เสียภาษี ขณะที่สินค้าจากเวียดนามจะถูกเก็บภาษีเพียง 20% จากเดิม 46% ซึ่งช่วยลดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างไรก็ตาม ในช่วงตลาดสหรัฐฯ ราคาทองได้รับแรงหนุนกลับจากรายงานการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ที่ระบุว่า สหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานไป 33,000 ตำแหน่ง ในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ และหนุนความต้องการถือทองคำกลับมาอีกครั้ง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังจากปรับฐานลงแรงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยโครงสร้างราคาปัจจุบันบ่งชี้ว่าอาจมีการก่อตัวของ Higher Low บริเวณ $3,294 และราคากำลังกลับขึ้นมาทดสอบ แนวต้านในโซนอุปทานระหว่าง $3,380 – $3,400แนวโน้มระยสั้น: เป็นการดีดตัวกลับขึ้น แต่ยังคงอยู่ภายในโครงสร้างการปรับฐานในภาพรวมที่กว้างขึ้นปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ราคาดีดจากระดับ $3,294 สะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามารองรับระดับราคานี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบ "Breakout Volume" ทีแข็งแกร่งเพียงพอในการผลักดันราคาให้ทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,380 ได้อย่างชัดเจนในขณะนี้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในอนุพันธ์เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สำคัญ ซึ่งอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนของคุณได้ คุณควรอ่านและศึกษาความถูกต้องตามกฎหมายของบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎระเบียบการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนเงินของคุณ โปรดรับผิดชอบและมีความรับผิดชอบในการซื้อขายของคุณ
คำเตือนความเสี่ยงในการซื้อขาย
การทำธุรกรรมผ่านมาร์จิ้นเกี่ยวข้องกับกลไกการใช้เลเวอเรจ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกคน ไม่มีการรับประกันผลกำไรจากการลงทุนของคุณ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังผู้ที่สัญญาผลกำไรจากการซื้อขาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินที่คุณไม่พร้อมจะขาดทุน ก่อนตัดสินใจทำการซื้อขาย ควรให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและพิจารณาประสบการณ์ของคุณด้วย


