0
ภาษาไทย
English
繁體中文
Tiếng Việt
ภาษาไทย
日本語
한국어
Bahasa Indonesia
Español
Português
Русский язык
اللغة العربية(beta)
zu-ZA
เข้าสู่ระบบ
สมัครบัญชี
0
วิเคราะห์ตลาด
วิเคราะห์ตลาด
วิเคราะห์ตลาด

จับตาผลประกอบการ Nvidia: หุ้นผู้นำกระแส AI ที่อาจพลิกโฉมมุมมองตลาด

Miki · 466.8K จำนวนการดู

Nvidia เทียบกับความเสี่ยงการค้ากับจีน

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ผลประกอบการของ Nvidia (Nvidia earnings) กำลังถูกจับตามองอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าตลาดกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคิดเป็นสัดส่วนราว 8% ของดัชนี S&P 500 สิ่งนี้ทำให้ Nvidia กลายเป็น ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นในตลาด AI (AI-driven sentiment barometer) อย่างแท้จริง
หากผลประกอบการออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ นักลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการลงทุนใน AI market rally แต่หากผลลัพธ์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ความเชื่อมั่นในกระแส AI ก็อาจถูกสั่นคลอนทันที การประกาศผลประกอบการครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการตัดสินว่ากระแส AI จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของ ตลาดหุ้นโลก (Global equities) และ ฟอเร็กซ์ (Forex) ต่อไปหรือไม่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Nvidia จะมี กำไรเพิ่มขึ้น 49% และ รายได้เติบโต 53% ในช่วงไตรมาส 2 หากบริษัทสามารถทำได้ตามที่คาดไว้ จะช่วยหนุนกระแสความต้องการ AI ที่แข็งแกร่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Microsoft, Amazon, Alphabet และ Meta อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทำได้ตามคาดการณ์ อาจนำไปสู่การปรับฐานรุนแรงในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนที่มีการลงทุนแบบ Leverage สูงในหุ้น AI และ Tech Stocks
 

ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาค

แม้ความเชื่อมั่นใน Nvidia earnings จะยังคงสูง แต่ก็มีข้อกังวลสำคัญ โดยเฉพาะด้าน Valuation ที่ตึงตัวเกินไป เนื่องจากราคาหุ้น Nvidia ซื้อขายที่ระดับราว 40 เท่าของกำไรที่คาดการณ์ ซึ่งสร้างความกังวลเรื่อง ฟองสบู่ (Bubble concerns) นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ–จีน (U.S.–China tensions) และข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปขั้นสูง อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มในอนาคตของบริษัท ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้อาจจำกัดความสามารถของ Nvidia ในการขยายธุรกิจในเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความต้องการ ชิปประสิทธิภาพสูง (high-performance chips) เติบโตเร็วที่สุด
ตลาดหุ้นในเอเชีย (Asian markets) จึงตอบสนองอย่างระมัดระวังก่อนการประกาศผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกยังคงจับตาปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค (Macro Risks) ที่กว้างกว่า เช่น ความเป็นอิสระของ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed’s independence) และ ความไม่มั่นคงทางการเมืองในฝรั่งเศส ตามรายงานของ Reuters สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ผลประกอบการ Nvidia กำลังเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ตลาดโลกเปราะบาง นักลงทุนทั่วโลกจึงเฝ้าระวังความเสี่ยงเชิงระบบ (Systemic risks) อย่างใกล้ชิด

การตอบสนองของตลาด

ฟิวเจอร์สและความเชื่อมั่น

ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ (U.S. stock futures) แสดงการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดย ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.3% และ S&P 500 กับ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.4% สะท้อนถึงบรรยากาศเชิงบวกแต่ยังคงระมัดระวัง ก่อนการประกาศ ผลประกอบการ Nvidia (Nvidia earnings) ความเชื่อมั่นที่ยังจำกัดนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการเปิดสถานะเชิงรุกจนกว่าตัวเลขจริงจะถูกเปิดเผย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีหลักของตลาดสหรัฐฯ (Major indices) อยู่ในช่วงการปรับฐาน (consolidation) มาหลายสัปดาห์ บ่งชี้ว่าผลประกอบการ Nvidia อาจเป็นตัวจุดประกาย (Market spark) ที่ทำให้ตลาดหลุดพ้นจากภาวะนิ่งชะงัก (Holding pattern) นักเทรดจำนวนมากจึงมองเหตุการณ์นี้แทบไม่ต่างจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค (macro release) ที่สำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI data)

ความผันผวนที่คาดการณ์

ตลาดออปชัน (Options Market) กำลังสะท้อนความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้น Nvidia จะเคลื่อนไหวราว 6.5% ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หลังการรายงานผลประกอบการ ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับ ความผันผวน (Volatility) ที่สูงกว่าปกติในรอบนี้ ทั้งนี้ ในอดีตผลประกอบการของ Nvidia earnings มักสร้างการเคลื่อนไหวเกินกว่า 7% อยู่บ่อยครั้ง ตอกย้ำให้เห็นถึงพลังการขับเคลื่อนตลาดของบริษัทเทคโนโลยีรายนี้
ความผันผวนดังกล่าวกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากนักเทรดในตลาดอนุพันธ์ (Derivatives traders) ที่มองหาโอกาสทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา ขณะที่ผู้จัดการกองทุน (Portfolio Managers) มองว่าราคาพรีเมียมที่สูงขึ้นของออปชันไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความเสี่ยง แต่ยังเปิดทางไปสู่ กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง (Hedging Strategies) และ Volatility Arbitrage ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมได้
ผลลัพธ์ของ Nvidia ในครั้งนี้ยังสามารถกำหนดทิศทางการจัดพอร์ตในกลุ่ม หุ้นเทคโนโลยี (Tech Stocks) โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาความผันผวนในตลาดหุ้นและฟอเร็กซ์อย่างใกล้ชิด

ตลาดโลกในภาวะตึงเครียด

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asian markets) ยังคงเปราะบาง ขณะที่ฟิวเจอร์สยุโรป (European futures) ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงทางการเมืองภายนอก ตามรายงานของ Reuters ความไม่มั่นคงในระดับโลกนี้สะท้อนให้เห็นว่า ผลประกอบการของ Nvidia (Nvidia earnings) เพียงบริษัทเดียวสามารถส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วกระแสเงินลงทุนในตลาดหุ้นโลก (international equity flows) ได้อย่างชัดเจน
ที่น่าสนใจคือ อิทธิพลของ Nvidia ต่อความเชื่อมั่นในตลาดโลก (Global sentiment) ได้ขยายตัวอย่างมากจนบรรดานักวิเคราะห์หลายรายมองว่าบริษัทนี้มีความสำคัญเชิงระบบ (Systemically important company) ซึ่งหมายความว่าผลประกอบการของ Nvidia ไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์ระดับบริษัท (Micro event) อีกต่อไป แต่กลายเป็น ปัจจัยเสี่ยงระดับมหภาค (Global macro risk factor) ที่นักลงทุนทั่วโลกต้องจับตา

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน

ปัจจัยพื้นฐาน: ยอดขาย, แนวโน้ม และการประเมินมูลค่า

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รายได้ไตรมาส 2 ของ Nvidia (Q2 revenue) จะอยู่ที่ราว 46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับ EBITDA ประมาณ 29 พันล้านดอลลาร์ และ EPS ที่ 1.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความต้องการ Blackwell GPU โดยเฉพาะในกลุ่ม Data Center ที่คาดว่ายอดจัดส่งจะสูงถึง 20.4 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนจึงจับตาเป็นพิเศษที่ แนวโน้มคำแนะนำล่วงหน้า (Forward Guidance) ซึ่งอาจช่วยยืนยันหรือชะลอกระแสการเติบโตของ AI growth story
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ (U.S. export restrictions) โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจีน ยังคงเป็นแรงกดดันด้านต้นทุน โดยรายงานระบุว่า Nvidia ได้รับผลกระทบกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 (ข้อมูลจาก Plus500) สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 3 (Q3 Guidance) ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 52 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากมีสัญญาณความอ่อนแอในภูมิภาคสำคัญ ๆ ก็อาจจุดชนวนคำถามใหม่เกี่ยวกับความยั่งยืนของการเติบโตในระยะยาว (sustainability of AI demand)

โมเมนตัมทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค (Technical Analysis) แนวโน้มของ Nvidia ยังคงแข็งแกร่งในทิศทางขาขึ้น (Bullish momentum) ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ต่อเนื่องก่อนการประกาศ ผลประกอบการ Nvidia (Nvidia earnings) อย่างไรก็ตาม ด้วยความคาดหวังที่สูงอยู่แล้ว แม้เพียงสัญญาณเล็กน้อยของความผิดหวัง ก็อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับฐานอย่างรวดเร็ว (Swift correction) ได้
รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาก่อนการประกาศผลประกอบการสะท้อนถึงสถานการณ์คลาสสิกแบบ “Buy the rumor, sell the news” ที่นักลงทุนมักเข้าซื้อก่อนข่าวออก และขายทำกำไรทันทีเมื่อมีการประกาศจริง
สำหรับนักเทรด ระดับ แนวรับ (Support) และ แนวต้าน (Resistance) ที่สำคัญอยู่ที่ 180 ดอลลาร์ และ 210 ดอลลาร์ ตามลำดับ การเบรกทะลุแนวต้าน อาจขยายการวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ของ Nvidia ต่อไป แต่หากราคาหลุดแนวรับ ก็จะยืนยันถึงแรงกดดันจากการขายทำกำไร (Profit-taking pressure)

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

  • MarketWatch แสดงความคิดเห็นว่า ผลประกอบการของ Nvidia (Nvidia earnings) อาจสร้างการเคลื่อนไหวของหุ้นหลังการประกาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี และมีน้ำหนักเทียบเท่ากับการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนในตอนนี้มองว่า Nvidia เป็นเสมือนตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (economic indicator) ในตัวเอง
  • TipRanks รายงานว่า เทรดเดอร์ในตลาดออปชัน (options traders) คาดการณ์การแกว่งตัวของมูลค่าตลาดถึง 288 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตอกย้ำว่า ผลประกอบการ Nvidia จะส่งแรงสะเทือนไม่เพียงแค่ต่อบริษัท แต่ยังขยายผลไปถึงตลาดการเงินโลก การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจมีอิทธิพลมากกว่ามาตรการทางการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศด้วยซ้ำ
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวก โดยให้คำแนะนำ Strong Buy พร้อมราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 199.94 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสเติบโตอีกราว 10% ความเชื่อมั่นนี้ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีความกังวลด้านการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation concerns) ก็ตาม ตอกย้ำถึงความมั่นใจใน AI growth story
  • อย่างไรก็ตาม ความกังวลเชิงคุณภาพยังคงมีอยู่ โดยบทวิเคราะห์จากสื่อหลายแห่งตั้งคำถามว่า ความต้องการ AI ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงด้านซัพพลาย จะสามารถรองรับการประเมินมูลค่าที่สูงมากของ Nvidia ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นคำเตือนที่ทำหน้าที่เป็นตัวถ่วงดุลต่อความเชื่อมั่นเชิงบวกเกินจริง (Unbridled bullishness)
 

สรุป

ผลประกอบการของ Nvidia (Nvidia earnings) อยู่บนทางแยกระหว่างความเชื่อมั่นและความระมัดระวัง หากรายได้ออกมาโดดเด่นและมีแนวโน้ม (guidance) ที่แข็งแกร่ง จะเป็นการยืนยันกระแสการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI rally และผลักดันการประเมินมูลค่าในกลุ่ม หุ้นเทคโนโลยี (Tech Stocks) ให้สูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากผลประกอบการผิดพลาด หรือแม้แต่แนวโน้มที่ออกมา “ไม่สมบูรณ์แบบ” ก็อาจจุดชนวนให้ตลาดต้องกลับมาประเมินความคาดหวังใน AI exuberance กันใหม่
ประเด็นสำคัญ :
  • ผลประกอบการ Nvidia ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ส่งผลต่อทั้งกระแสความเชื่อมั่นใน AI และดัชนีตลาดหลัก (broader indices)
  • ตลาดเตรียมรับมือกับ ความผันผวน (Market volatility) โดยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ Nvidia อาจส่งแรงกระทบไปยังหลายอุตสาหกรรม
  • มุมมองผู้เชี่ยวชาญแตกต่างกัน ตั้งแต่เชิงบวกสุดขั้ว (Bullishness) ไปจนถึงความกังวลแบบระมัดระวัง (Skepticism)
  • ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical dynamics) เช่น การพึ่งพาตลาดจีน (China exposure), ความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed independence) และความไม่สงบในยุโรป (EU unrest) ยิ่งเพิ่มชั้นความไม่แน่นอนให้กับภาพรวม
เมื่อใกล้ถึงเวลาประกาศผลประกอบการ นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับ ความผันผวนที่มากกว่าปกติ (Outsized volatility) และวางกลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง (risk management) อย่างรอบคอบ

ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่ Dupoin & Dupoin Academy

 
 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
กรุณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎเกณฑ์ในการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
การซื้อขายถือเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยสมบูรณ์ บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกระทบใด ๆ ที่เกิดจากการลงทุนของท่าน

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง
การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงจากกลไกเลเวอเรจ อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และไม่มีการรับประกันผลกำไรใด ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และพิจารณาให้รอบด้านถึงความรู้ ประสบการณ์ของท่าน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ต้องการความช่วยเหลือ?
คลิกที่นี่