ราคาน้ำมันแกว่งแรง! สัญญาณจากสต็อกสหรัฐฯ และเดิมพันบนโต๊ะเจรจาทรัมป์-ปูติน

ราคาน้ำมันผันผวนท่ามกลางความตึงเครียดรอบด้าน

ราคาน้ำมันยังอ่อนตัวในเอเชีย ท่ามกลางความรอคอยประชุมทรัมป์–ปูติน

ราคาน้ำมันแกว่งตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนในการซื้อขายช่วงเอเชียวันพุธ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ การพบปะดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อทั้งตลาดพลังงานและภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียในอนาคต

ปัจจัยหนึ่ง: สต็อกน้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด

ข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า ปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 สิงหาคม สวนทางกับการคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.8 ล้านบาร์เรล ตัวเลขนี้บ่งชี้ถึงความต้องการเชื้อเพลิงที่อาจอ่อนตัวลงในประเทศผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงปลายฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยปกติแล้วมีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุดของปี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากข้อมูล API มักเป็นสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มของรายงานอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่จะประกาศในภายหลังของวัน โดยตลาดคาดว่า EIA จะรายงานการลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล

ตัวเลข EIA และแนวโน้มการผลิต

แม้จะคาดว่าปริมาณน้ำมันคงคลังของ EIA จะลดลงเล็กน้อย แต่รายงานล่าสุดของทั้ง EIA และ OPEC ระบุว่า การผลิตน้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป OPEC ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในปี 2026 เล็กน้อย แต่การคาดการณ์นี้ไม่ได้เพียงพอที่จะหนุนราคาน้ำมัน เนื่องจากตลาดยังคงกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นตลาดและความต้องการที่ซบเซา

ผลกระทบต่อราคา WTI และ Brent

ในการซื้อขายล่าสุด สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) สำหรับส่งมอบเดือนตุลาคมทรงตัวที่ 66.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 0.1% อยู่ที่ 62.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 19:39 น. การเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่รอปัจจัยใหม่ ๆ จากทั้งข้อมูลสต็อกและการเมืองระหว่างประเทศ

ความกังวลด้านอุปทาน: OPEC+ ผลิตเพิ่มในขณะที่ความต้องการซบเซา

OPEC+ ยังคงเดินหน้าขยายการผลิตเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจโลกหลังโควิด ขณะที่ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ปัจจัยนี้ทำให้ตลาดน้ำมันเผชิญแรงกดดันจากอุปทานส่วนเกินอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความเสี่ยงจากการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียก็ตาม

จับตาการประชุมทรัมป์–ปูติน ความเสี่ยงด้านการเมืองและมาตรการคว่ำบาตร

การประชุมระหว่างทรัมป์และปูตินที่อลาสก้าในวันศุกร์นี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดพลังงานโลก เนื่องจากสหรัฐฯ อาจเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย รวมถึงการเก็บภาษีกับผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย เช่น อินเดียและจีน ซึ่งทรัมป์ได้เคยเสนอภาษีนำเข้า 50% กับอินเดียมาก่อน

ท่าทีของทำเนียบขาวที่พยายามลดความคาดหวังต่อการยุติความขัดแย้งอย่างรวดเร็ว อาจหมายถึงการเจรจาที่ใช้เวลานาน และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

บทสรุป: ตลาดน้ำมันเผชิญความไม่แน่นอนสูง

ตลาดน้ำมันกำลังเผชิญแรงกดดันจากหลายทิศทาง ทั้งอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ความต้องการที่ซบเซา และความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจทำให้ราคาผันผวนมากขึ้นในระยะสั้น นักลงทุนและผู้ประกอบการในตลาดพลังงานจำเป็นต้องจับตาทั้งข้อมูลเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางราคาและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม

ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่ Dupoin & Dupoin Academy