

วิเคราะห์ตลาด
วิเคราะห์เชิงลึก: Futures สหรัฐฯ ทรงตัว ก่อน CPI กรกฎาคม – สัญญาณตลาดกับโอกาสนักลงทุน
Lena · 116.5K จำนวนการดู

Futures สหรัฐฯ ทรงตัวก่อนประกาศ CPI กรกฎาคม – เจาะสัญญาณตลาดและแนวทางลงทุน
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ตลาดการเงินสหรัฐฯ เปิดตัวด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ (US Stock Futures) เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่างรอคอยข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคม ซึ่งจะบ่งบอกระดับแรงกดดันเงินเฟ้อ และเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย
ความเงียบในตลาดครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน “ช่วงสงบก่อนพายุ” เพราะตัวเลขที่กำลังจะประกาศอาจเป็นตัวเร่งให้ตลาดเคลื่อนไหวแรงทั้งขาขึ้นและขาลง
ภาพรวมดัชนีฟิวเจอร์สล่าสุด
-
S&P 500 Futures ปรับขึ้นเล็กน้อยราว 0.1% แตะระดับ 6,422 จุด
-
Nasdaq 100 Futures ขยับเพิ่มในสัดส่วนเดียวกัน อยู่ที่ประมาณ 23,738 จุด
-
Dow Jones 30 Futures เคลื่อนไหวใกล้ระดับเดิมที่ 44,069 จุด
การเปลี่ยนแปลงที่น้อยนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ตลาดกำลังชะลอการตัดสินใจเพื่อรอข้อมูลใหม่ก่อนจะเลือกทิศทาง
บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดทำการในแดนลบเล็กน้อย
-
S&P 500 ลดลง 0.3%
-
Nasdaq Composite ลดลง 0.3%
-
Dow Jones Industrial Average ปรับตัวลง 0.5%
แรงขายนี้สะท้อนความกังวลของนักลงทุนที่เลือกจะลดความเสี่ยงชั่วคราว เพื่อรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์
CPI กรกฎาคม – ตัวเลขที่ตลาดรอคอย
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นเครื่องมือวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในประเทศ โดยหากตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ นักลงทุนอาจมองว่า Fed ยังต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป แต่ถ้าต่ำกว่าคาด ก็อาจเป็นแรงหนุนให้ Fed เร่งการลดดอกเบี้ย
การคาดการณ์ในครั้งนี้อยู่ที่:
-
CPI รายเดือน: เพิ่ม 0.2%
-
CPI รายปี: เพิ่ม 2.8%
-
Core CPI รายเดือน: เพิ่ม 0.3%
-
Core CPI รายปี: เพิ่ม 3.0%
แม้จะยังสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% แต่หากตัวเลขมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ก็จะเพิ่มแรงกดดันให้ Fed พิจารณาปรับดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นตลาด
-
การเลื่อนภาษีนำเข้าจากจีน – การขยายเวลาการเก็บภาษีออกไปอีก 90 วันช่วยลดแรงกดดันในระยะสั้น แต่ประเด็นด้านการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นความเสี่ยงระยะยาว
-
ความเคลื่อนไหวในหุ้นเทคโนโลยี – ข่าวว่าการส่งออกชิป AI ไปจีนจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 15% ส่งผลให้หุ้น Nvidia และ AMD อ่อนตัวลง แม้ราคายังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
-
ค่าเงินดอลลาร์และสินค้าโภคภัณฑ์ – ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่ราคาทองคำและน้ำมันยังแกว่งตัวตามภาวะอุปสงค์โลกและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดกับสินทรัพย์หลัก
-
หุ้นสหรัฐฯ – CPI ต่ำกว่าคาดจะหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต แต่หากสูงกว่าคาดจะเพิ่มแรงกดดันต่อหุ้นเหล่านี้
-
พันธบัตร – เงินเฟ้อสูงมักทำให้ Bond Yield ขยับขึ้น นักลงทุนบางส่วนอาจขายพันธบัตรระยะยาว
-
ตลาดเงิน – ดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าหาก CPI ออกมาสูง
-
สินค้าโภคภัณฑ์ – ทองคำมักได้แรงซื้อเมื่อดอลลาร์อ่อน ขณะที่น้ำมันจะขึ้นลงตามความต้องการใช้และปัจจัยทางการเมือง
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนไทย
-
หุ้นส่งออกจะได้ประโยชน์หากดอลลาร์แข็ง
-
หุ้นเทคโนโลยีควรติดตามเทรนด์ AI และความต้องการชิปในตลาดโลก
-
กระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง และใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความผันผวน
-
ใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อ Hedge ความเสี่ยงค่าเงินและราคาสินค้าโภคภัณฑ์
มุมมองระยะสั้นและระยะกลาง
-
ระยะสั้น (1–3 เดือน): ตลาดอาจผันผวนสูงก่อนและหลังการประกาศ CPI นักลงทุนควรคุมความเสี่ยงและตั้งจุดตัดขาดทุน
-
ระยะกลาง (3–6 เดือน): หากเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย อาจฟื้นตัวได้
ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่ Dupoin & Dupoin Academy
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด
กรุณาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ผลิตภัณฑ์ และกฎเกณฑ์ในการซื้อขายอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
การซื้อขายถือเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยสมบูรณ์ บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือผลกระทบใด ๆ ที่เกิดจากการลงทุนของท่าน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง
การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงจากกลไกเลเวอเรจ อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และไม่มีการรับประกันผลกำไรใด ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และพิจารณาให้รอบด้านถึงความรู้ ประสบการณ์ของท่าน ก่อนตัดสินใจลงทุน
